เราจะรู้ได้อย่างไรว่าอะตอมไม่มีสติสัมปชัญญะ?

รายละเอียดคำถาม
คำตอบ

พี่น้องที่รักของเรา

ลองดูมันก่อนดีกว่า

แปลว่า

หมายความว่าสามารถใช้ในงานเคมีได้

ในคำศัพท์ทางศาสนาอิสลาม คำนี้ใช้เพื่อแทนคำว่า “คำ” เช่นเดียวกับที่ใช้เพื่ออธิบายสาขาความรู้ใดๆ เช่น … และเป็นที่ทราบกันว่าคำว่า “ความรู้” และ “วิทยา” บางครั้งก็ใช้คำนี้แทนได้

ตามที่ จูร์จานี กล่าวไว้

นั่นหมายความว่าจะต้องมีจิตวิญญาณ (เนฟส์) จิตวิญญาณนั้นจะได้รับความรู้เกี่ยวกับวัตถุบางอย่าง และความรู้เหล่านั้นเองที่กลายเป็นความรู้ (อิลม์)

ยังหมายถึงการคิด การเข้าใจ และการจินตนาการอีกด้วย”

ดังนั้น เพื่อให้สิ่งมีชีวิตมีคุณลักษณะแห่งความรู้ มันจะต้องมีจิตใจ มีความสามารถในการคิดและจินตนาการ

เนื่องจากการรู้สิ่งใดสิ่งหนึ่งนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการมีคุณลักษณะแห่งความรู้ของสิ่งมีชีวิต

หลังจากคำอธิบายเหล่านี้แล้ว หากเรากลับมาที่หัวข้อในคำถาม เราจะถามว่า อะตอมและเซลล์มีจิตสำนึกหรือไม่ คือพวกมันมีสติสัมปชัญญะที่จะแยกแยะความดีและความชั่วได้หรือไม่

การคิดอย่างชาญฉลาดและมีเหตุผลมีอยู่จริงหรือไม่?

แต่เราก็มีมันอยู่ บางครั้งเราทำตามสิ่งที่จิตใจปรารถนา บางครั้งเราก็ไม่ทำ เพราะเราใช้เหตุผลและตรรกะรู้ว่าสิ่งที่จิตใจปรารถนานั้นไม่ใช่สิ่งที่มีประโยชน์เสมอไป บางครั้งสิ่งที่จิตใจปรารถนาก็อาจนำมาซึ่งโทษทัณฑ์ในโลกนี้ หรือในโลกหน้า ดังนั้นเราจึงละทิ้งการกระทำนั้นไป

แต่เซลล์และอะตอมไม่มีอิสระเจตจำนงเช่นเดียวกับมนุษย์ และไม่มีความสามารถในการคิดอย่างมีเหตุผลและใช้สติปัญญาในการตัดสินใจ

ตอนนี้เรามาดูอีกหนึ่งคุณสมบัติที่อยู่ในปัญหา ซึ่งก็คือ “iye” กัน

คืออะไร?

ใช้ในความหมายของ ต้องการ, ปรารถนา, เอียงไปทาง, ใฝ่ฝัน

เจตจำนงของพระเจ้า เรียกว่า เจตจำนงโดยรวม (külli irade) ส่วนเจตจำนงของมนุษย์ เรียกว่า เจตจำนงส่วนตัว (veya)

มนุษย์ปรารถนาสิ่งใด พระเจ้าก็จะทรงสร้างสิ่งนั้นขึ้นมา นั่นหมายความว่า พระประสงค์อันกว้างใหญ่ของพระเจ้าขึ้นอยู่กับเจตจำนงส่วนตัวของมนุษย์ ตัวอย่างเช่น ถ้ามนุษย์ปรารถนาจะไปผับ พระเจ้าก็จะทรงสร้างการกระทำนั้นขึ้นมาให้คนๆนั้น ถ้าปรารถนาจะไปสถานที่เคารพบูชา พระเจ้าก็จะทรงสร้างการกระทำนั้นขึ้นมาให้เช่นกัน

แต่ในอะตอมและโมเลกุลนั้น ไม่มีเจตจำนงส่วนตัวเช่นนั้น คือไม่มีเจตจำนงที่จะเลือกสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยการคิดก่อน ดังนั้นจึงถือว่าสิ่งเหล่านี้ไม่มีเจตจำนง

มาดูสูตรกันเลยดีกว่า

คำว่า “กำลัง” หมายถึง ความสามารถ พลัง หรือ อำนาจ เป็นคุณสมบัติที่แสดงให้เห็นว่าสิ่งมีชีวิตสามารถทำหรือไม่อยากทำบางสิ่งบางอย่างได้ตามเจตจำนง

แท้จริงแล้วพระเจ้าทรงดำรงอยู่ด้วยชีวิตที่นิรันดร์และเป็นอมตะ และด้วยคุณลักษณะแห่งอำนาจอันทรงพลัง พระองค์ทรงสามารถทำทุกสิ่งที่พระองค์ทรงปรารถนาได้

เป็นคุณลักษณะนิรันดร์ของพระอัลเลาะห์ที่เมื่อปรากฏในสิ่งมีชีวิต ก็จะส่งผลกระทบต่อสิ่งเหล่านั้น

จักรวาลทั้งหมดถูกสร้างขึ้นและดำรงอยู่ด้วยอำนาจของพระเจ้า ส่วนมนุษย์นั้นมีอำนาจที่จำกัด

อะตอมและโมเลกุลไม่มีพลังหรือแรงดังกล่าว แต่สามารถทำให้พวกมันเคลื่อนที่ได้ด้วยเครื่องยนต์หรือตัวเร่งจากภายนอก หรือสามารถเปลี่ยนพลังงานพันธะให้เป็นพลังงานและทำให้เกิดการเคลื่อนที่ได้

เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นคุณสมบัติที่เกี่ยวข้องกับจิตวิญญาณ และจิตใจก็มีบทบาทในการใช้สิ่งเหล่านี้ การคิดอย่างรอบคอบและการตัดสินใจอย่างชาญฉลาดจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการใช้สิ่งเหล่านี้อย่างถูกต้อง

อย่างไรก็ตาม คุณสมบัติเหล่านี้ไม่มีอยู่ในอะตอมและโมเลกุลเลยแม้แต่สิ่งเดียว


ด้วยความรักและคำอวยพร…

ศาสนาอิสลามผ่านคำถามและคำตอบ

คำถามล่าสุด

คำถามของวัน