การที่ฝนไม่ตก หรือความแห้งแล้งนั้น เป็นที่รู้จักกันในหมู่ชาวมุสลิมว่าเป็นโทษที่อัลลอฮ์ทรงลงโทษแก่เหล่าบรรดาผู้รับใช้ของพระองค์ เรามักจะพูดกันว่า เมื่อฝนไม่ตกบาปก็เพิ่มมากขึ้น การล่วงประเวณีก็เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นอัลลอฮ์จึงไม่ประทานเมตตา แต่สิ่งที่ผมไม่เข้าใจก็คือ ในบางประเทศนั้น ไม่ใช่แค่ไม่มีฝนตกเลย แต่แทบจะไม่มีวันที่ไม่มีฝนเลยด้วยซ้ำ เช่น จังหวัดริเซ ที่นั่นฝนตกเกือบทุกวัน อย่างนี้แล้วความคิดนี้มันไม่ขัดแย้งกับความเป็นจริงหรือเปล่า?
พี่น้องที่รักของเรา
มิฉะนั้น การละหมาดและการอธิษฐานนั้นมิใช่เพื่อขอฝน หากเป็นเพราะเจตนาเพียงนั้น การอธิษฐานและการละหมาดนั้นจะไม่บริสุทธิ์ และจะไม่ได้รับการตอบรับ เช่นเดียวกับที่พระอาทิตย์ตกดินเป็นเวลาละหมาดอัสรุ เช่นเดียวกัน อัลเลาะห์ทรงให้เกิดภาวะแห้งแล้งเพื่อให้ผู้ศรัทธาได้อธิษฐาน
ทั้งการเกิดสุริยุปราคาและจันทรุปราคา เป็นเวลาสำหรับละหมาดพิเศษสองอย่างที่เรียกว่าละหมาดกุซูฟและฮุซูฟ กล่าวคือ การที่แสงสว่างแห่งคืนและวันถูกบดบัง ทำให้เกิดการประกาศความยิ่งใหญ่ของอัลเลาะห์ ดังนั้นพระองค์จึงทรงเชิญชวนบรรดาบ่าวสาวของพระองค์ให้ทำการละหมาดในเวลานั้น ไม่ใช่ว่าละหมาดนั้นเป็นไปเพื่อการเปิดเผย (ซึ่งสามารถคำนวณได้ทางดาราศาสตร์ว่าเมื่อใดจะเปิดเผยและจะเปิดเผยนานเท่าใด) ของดวงจันทร์และดวงอาทิตย์
จากมุมมองนี้ ไม่จำเป็นต้องมองภาวะแห้งแล้งเป็นโทษเสมอไป พระเจ้าทรงต้องการให้ผู้คนอธิษฐาน และพระองค์ทรงแสดงให้เห็นถึงสิ่งนี้โดยการสร้างภาวะแห้งแล้งขึ้นมา
คลิกเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม:
มีคนกล่าวว่าความหายนะต่างๆ เป็นการแสดงออกของพระกรรณิการะของพระเจ้า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะพูดเช่นนั้นกับทุกความหายนะ…
ด้วยความรักและคำอวยพร…
ศาสนาอิสลามผ่านคำถามและคำตอบ