– อย่างที่คุณทราบกันดี เราได้สังหารสัตว์เพื่อเป็นเครื่องบูชาและปล่อยเลือดของมันออกมา เราทำเช่นนี้เพื่อชำระล้างบาปของเราหรือไม่?
– ดังนั้น ในศาสนาอิสลาม มีความเชื่อที่ว่าการปล่อยเลือดของสัตว์ที่ถูกสังเวยจะช่วยให้เจ้าของผู้ทำการสังเวยพ้นจากบาปหรือไม่?
พี่น้องที่รักของเรา
“และเราได้กำหนดให้สัตว์เลี้ยงสำหรับเป็นเครื่องบูชาเป็นเครื่องหมายของศาสนาของอัลลอฮฺสำหรับพวกท่าน และในสัตว์เหล่านั้นมีสิ่งดีๆ สำหรับพวกท่าน”
(อัลฮัจญ์ 22/36)
ข้อความในบทที่แปลว่า “สัตว์ที่ถูกสังเวย” หมายถึงสัตว์ที่ถูกสังเวยเพื่อมนุษย์
ขอให้มีแต่สิ่งดีๆ
อธิบายว่ามีอะไรอยู่ข้างใน
คำกล่าวของศาสดาที่ส่งเสริมการทำซีกา (การสละสัตว์เพื่อเป็นเครื่องบูชา) ถือเป็นคำอธิบายของข้อพระคัมภีร์นี้
เรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับหัวข้อที่กล่าวถึงในคำถามมีดังนี้:
1.
อิมรัน บิน ฮุเซน รายงานว่า:
ศาสดาผู้ยิ่งใหญ่ (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ได้ตรัสกับท่านฟาติมะฮฺดังนี้:
“ลุกขึ้น ไปหาเหยื่อของคุณ และเฝ้าดูมัน เมื่อหยดเลือดแรกของมันไหลลงมา บาปที่คุณกระทำจะได้รับการอภัยโทษ จงกล่าวว่า;
การละหมาด การปฏิบัติศาสนกิจ การดำเนินชีวิต และการตายของฉัน ย่อมเป็นไปเพื่ออัลลอฮ์ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของโลกทั้งปวง ไม่มีสิ่งใดมาเป็นหุ้นส่วนกับพระองค์ และฉันได้รับคำสั่งเช่นนั้น ฉันจึงเป็นมุสลิม
การละหมาดและการกราบไหว้ของฉัน
(เหยื่อของฉัน)
ชีวิตและความตายของข้าพเจ้าเป็นของอัลลอฮ์ พระองค์ผู้เป็นพระเจ้าของโลกทั้งปวง ไม่มีสิ่งใดเป็นหุ้นส่วนกับพระองค์ ข้าพเจ้าได้รับคำสั่งเช่นนี้ และข้าพเจ้าเป็นผู้ที่ยอมจำนนต่ออัลลอฮ์”
อิมรอน (รา)
กล่าวว่า;
“โอ้ศาสดาผู้มีพระเมตตา (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) สิ่งนี้เป็นเฉพาะคุณและครอบครัวของคุณเท่านั้น หรือเป็นสิ่งสำหรับครอบครัวของคุณและมุสลิมทุกคนด้วยกัน?”
ฉันพูดอย่างนั้น แล้วท่านศาสดา (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ก็ตรัสว่า:
“ที่จริงแล้วมันเป็นสิทธิเฉพาะของชาวมุสลิมทุกคน”
(ตัเบอรานี, อาวซัต, 3/247; ฮากิม, มุสเตดรัก, 7/2684)
ฮัยเซมี
ในหะดีษข้อนี้
อับู ฮัมซา อัส-ซิมาลี
ซึ่งมีร่องลึกอยู่ และร่องลึกละนั้นคือ
“อ่อนแอ”
ระบุว่า
(มัจมาอัซ-ซะวาอิด, 4/17)
ส่วนผู้พิพากษาคือ
“การอ้างอิงถูกต้อง”
กล่าวไว้
(ฮากิม, มุสทัดรัก, 7/2684)
2.
อับูไซด์ อัล-คุดรี (ร่อ) ได้เล่าไว้ว่า:
ศาสดาผู้ยิ่งใหญ่ (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ได้ตรัสกับท่านฟาติมะฮฺดังนี้:
“ลุกขึ้น ไปหาเหยื่อของคุณ และเฝ้าดูมัน เมื่อหยดเลือดแรกของมันไหลลงมา อดีตบาปของคุณจะได้รับการอภัยโทษ”
ฟาติมากล่าวว่า:
“โอ้ศาสดาของพระอัลเลาะห์ สิ่งนี้เป็นเฉพาะสำหรับเราและครอบครัวของท่านเท่านั้น หรือเป็นสิ่งทั่วไปสำหรับมุสลิมทุกคน?”
ศาสดาโมฮัมหมัด (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม)
“ตรงกันข้าม นี่เป็นสิ่งที่เฉพาะเจาะจงสำหรับเราและชาวมุสลิมทุกคน”
กล่าว
(ดู age.)
3.
ท่านอายิชา (ร่อฎิยัลลอฮุ อันฮา) กล่าวเลียนแบบถ้อยคำของศาสดาโมฮัมหมัด (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ว่า:
“บุตรมนุษย์มิได้กระทำการใดๆ ที่เป็นที่รักยิ่งกว่าการสุนเลือดในวันอีดอัฎฮาต่อพระพักตร์อัลลอฮฺ สัตว์ที่ถูกพลัดนั้นจะมาในวันกิยามะห์พร้อมกับเขา หนาม และเล็บของมัน เลือดของสัตว์ที่ถูกพลัดนั้นจะได้รับการยอมรับจากอัลลอฮฺทันที ก่อนที่มันจะตกลงสู่พื้น ดังนั้น จงมีความสุขกับสัตว์ที่พวกท่านได้พลัดมา”
(ติรมีซี, อะดาฮี 1; ฮากิม, มุสตะดรัก, 7/2684, ดู อิบนุมาจา, อะดาฮี 3)
ติร์มิซีกล่าวถึงหลักฐานของฮาดิสนี้ว่า
“ผู้มีพระคุณและผู้ยากไร้”
ทำการประเมินผล
(ทิรมีซี, เดือน)
มูบารัคฟูรี ผู้เป็นผู้ให้คำอธิบายเรื่องราวของติรมีซี กล่าวว่า ตามที่ปรากฏชัดเจนแล้ว ฮาดิสนี้ไม่ถูกต้อง (ไม่เป็น “สะฮีฮ์”)
“ฮาเซน”
ขอแจ้งให้ทราบว่าอยู่ในระดับ…
(ทุห์ฟะตุล-อะห์วาซี, 4/431)
ฮาคิม อัล-นิซาบูรี
ถ้า,
“การอ้างอิงถูกต้อง”
ได้กล่าวไว้
(ฮากิม, มุสทัดรัก, 7/2684)
ในพจนานุกรม
“การเข้าใกล้ การเป็นสิ่งที่นำพาให้เข้าใกล้พระเจ้า”
ซึ่งมีความหมายว่า
“ผู้เคราะห์ร้าย”
ในทางศาสนา คำนี้หมายถึงการฆ่าสัตว์ที่ตรงตามเงื่อนไขเฉพาะตามวิธีการที่ถูกต้อง เพื่อการกราบไหว้บูชา เพื่อเข้าใกล้พระเจ้าและได้รับความพึงพอใจจากพระองค์ และยังหมายถึงสัตว์ที่ถูกฆ่าเพื่อจุดประสงค์ดังกล่าวด้วย
(อิบน์ อับิดีน, รัดดุล-มุห์ตาร์, 9/452)
สัตว์ที่ถูกฆ่าเป็นเครื่องบูชาในเทศกาลอีดอัฎฮา
อุดฮียะห์
, สำหรับสัตว์ที่ถูกสังเวยในพิธีฮัจญ์
เฮดี้
เรียกว่า
ผู้ศรัทธาที่จิตใจปกติ สвобоดา มีที่อยู่อาศัย และมีฐานะร่ำรวยตามหลักศาสนา เมื่อทำการสละสุนัขเพื่อเป็นเครื่องบูชาด้วยความปรารถนาที่จะได้รับความพอพระทัยจากพระเจ้า จะได้เข้าใกล้พระเจ้ามากขึ้น และยังได้ช่วยเหลือผู้ที่ไม่มีฐานะทางการเงินเพียงพอที่จะทำการสละสุนัขได้อีกด้วย
(ซาราห์ซี, อัล-มาบซูต, 12/8; อิบน์นูเจม, อัล-บาห์ร, 8/197)
จิตวิญญาณแห่งการปฏิบัติศาสนกิจนี้อยู่บนพื้นฐานของความใกล้ชิดกับพระเจ้าและการเสียสละตนเพื่อผู้อื่น
ผู้เคราะห์ร้าย
เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นว่ามุสลิมคนหนึ่งพร้อมที่จะอุทิศทุกสิ่งทุกอย่างของตนเพื่อพระเจ้า หากจำเป็นต้องทำเช่นนั้น
มีข้อความในอัลกุรอานมากมายที่บ่งชี้ถึงความถูกต้องตามกฎหมายของการสละสุนัขเป็นเครื่องบูชา:
“จงให้พวกเขาระลึกถึงพระนามของอัลลอฮฺเหนือสัตว์ที่พวกเขามอบให้เป็นเครื่องบูชาในวันอันกำหนดไว้ แล้วจงรับประทานจากสัตว์เหล่านั้น และจงให้คนยากจนและคนไร้ที่พึ่งได้กินด้วย”
(อัลฮัจญ์ 22/28)
“เราได้บัญญัติให้การทำซะบาฮิฮะ (การฆ่าสัตว์เพื่อเป็นเครื่องบูชา) เป็นสิ่งถูกต้องตามศาสนาสำหรับแต่ละชนเผ่า เพื่อให้พวกเขานึกถึงพระนามของอัลลอฮ์เหนือสัตว์ที่พระองค์ทรงประทานเป็นอาหารให้แก่พวกเขา”
(อัลฮัจญ์ 22/34)
“เราได้กำหนดให้สัตว์เลี้ยงสำหรับเป็นเครื่องบูชาเป็นเครื่องหมายแห่งศาสนาของอัลลอฮฺสำหรับพวกท่าน ในสัตว์เหล่านั้นมีสิ่งดีๆ สำหรับพวกท่าน เมื่อพวกท่านจะทำการเสียบญสัตว์เหล่านั้น จงกล่าวชื่อของอัลลอฮฺเหนือสัตว์เหล่านั้นขณะที่พวกมันเรียงรายอยู่ เมื่อมันล้มลงและตายแล้ว จงรับประทานเนื้อของมัน และจงให้คนยากจนที่ไม่อาจขอร้องได้และคนยากจนที่ต้องขอร้องได้กินด้วย เราได้มอบสัตว์เหล่านั้นให้พวกท่านใช้สอย เพื่อพวกท่านจะได้ซูรุ้ก” เนื้อและเลือดของสัตว์เหล่านั้นจะไม่ถึงอัลลอฮฺ แต่สิ่งที่ถึงอัลลอฮฺได้นั้นคือการกระทำและการปฏิบัติศาสนกิจของพวกท่านที่ปราศจากการโอ้อวด
”
(อัลฮัจญ์ 22/36-37)
ข้อความในอายะเหล่านี้ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าการฆ่าสัตว์ที่กล่าวถึงนั้นไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อการบริโภคเนื้อสัตว์ แต่เป็นพิธีกรรมทางศาสนา ข้อความในอายะเองก็ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าเนื้อและเลือดนั้นไม่สามารถเข้าถึงพระเจ้าได้ สิ่งที่สำคัญคือความศรัทธาและความยำเกรงต่อพระเจ้า
ศาสดาโมฮัมหมัด (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ก็ถือว่าการทำเนื้อสัตว์เป็นเครื่องบูชาเป็นศาสนกิจ และท่านก็ทรงทำเนื้อสัตว์เป็นเครื่องบูชาด้วยพระองค์เอง เป็นที่ทราบกันดีว่า ศาสดาโมฮัมหมัด (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ทรงทำเนื้อสัตว์เป็นเครื่องบูชาทุกปี ตั้งแต่ได้รับการบัญญัติให้เป็นศาสนกิจจนกระทั่งถึงวาระอันเป็นสุขของพระองค์
(ดู ติรมีซี, อะดาฮี, 11; ดู บุฮารี, ฮัจญ์, 117, 119; มุสลิม, อะดาฮี, 17)
ในรายงานที่ปรากฏในแหล่งข้อมูลฮะดีษที่ถูกต้องนั้น พระศาสดา (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ได้ตรัสว่า การสละสุนัขเป็นสัตว์พลีในวันอีดอัฎฮาเป็นศาสนกิจที่พระองค์ทรงโปรดปรานที่สุดต่อพระอัลลอฮ์ และว่าสัตว์พลีจะได้รับการยอมรับจากพระอัลลอฮ์ทันทีที่ถูกฆ่า และทุกส่วนของสัตว์พลีที่ถูกสละ รวมถึงกีบและเขา จะถูกบันทึกเป็นบุญกุศลให้กับผู้สละ และทรงแนะนำให้ทำศาสนกิจนี้เพื่อความพึงพอใจของพระอัลลอฮ์
(ดู ติรมีซี, อะดะฮี, 1; อิบน์ มาจิ, อะดะฮี, 3)
จากข้อมูลเหล่านี้ สามารถสรุปได้ว่าการทำบุญด้วยการบริจาคเนื้อสัตว์เป็นพิธีกรรมทางศาสนาที่แสดงให้เห็นถึงความศรัทธาและความจริงใจของผู้ปฏิบัติ เช่นเดียวกับพิธีกรรมทางศาสนาอื่นๆ การทำบุญด้วยการบริจาคเนื้อสัตว์จะช่วยให้ผู้ปฏิบัติได้ชำระล้างบาปได้มากน้อยขึ้นอยู่กับความจริงใจและความศรัทธาของแต่ละบุคคล
คลิกเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม:
– เงื่อนไขในการได้รับผลตอบแทนและรางวัลที่สัญญาไว้จากการปฏิบัติศาสนกิจมีอะไรบ้าง?
ด้วยความรักและคำอวยพร…
ศาสนาอิสลามผ่านคำถามและคำตอบ