เพื่อนของฉันมีน้องต่างมารดา (พ่อและแม่ต่างกัน) คนหนึ่งอายุสิบแปด อีกคนอายุสิบเก้าปี เพศต่างกัน และอยู่บ้านหลังเดียวกัน เรื่องนี้ถูกต้องตามหลักศาสนาหรือไม่? พวกเขาควรทำอย่างไร?
พี่น้องที่รักของเรา
เนื่องจากบุคคลที่ทั้งแม่และพ่อต่างกันถือเป็นคนที่ไม่เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด (ไม่เป็นญาติ) จึงไม่ควรปล่อยให้พวกเขาอยู่ตามลำพังในบ้านหลังเดียวกัน
ไม่ว่าภรรยาของบรรพบุรุษจะเป็นผู้สืบทอดมรดก (จากทางพ่อ) หรือเป็นญาติทางสายเลือด (ผ่านทางครรภ์) ก็ตาม ไม่ว่าเธอจะเคยร่วมเรือนกับบรรพบุรุษนั้นหรือไม่ หรือเพียงแค่ทำสัญญาแต่งงานแต่ยังไม่ได้ร่วมเรือนด้วยกัน ก็ถือว่าเป็นภรรยาของบรรพบุรุษเช่นกัน เช่น ภรรยาของพ่อ หรือภรรยาของปู่หรือตาจากทางพ่อหรือแม่ เป็นต้น
“และอย่าได้แต่งงานกับผู้หญิงที่บิดาของท่านเคยแต่งงานด้วย สิ่งที่เกิดขึ้นในยุคก่อนอิสลามนั้นได้ถูกอภัยแล้ว แท้จริงแล้วมันเป็นสิ่งที่เลวร้ายอย่างยิ่ง เป็นสาเหตุแห่งความโกรธแค้นของอัลลอฮ์ เป็นธรรมเนียมที่ชั่วร้ายยิ่งนัก…”
(นิสา, 4/22)
ข้อพระคัมภีร์นี้เป็นหลักฐานยืนยัน
“การแต่งงาน”
หมายถึงสัญญาที่ได้ตกลงกันไว้ ซึ่งเป็นสาเหตุของการห้ามแต่งงาน ไม่ว่าจะมีพิธีแต่งงานหรือไม่ก็ตาม ในภาษาอาหรับ คำว่า “พ่อ” ใช้สำหรับหมายถึงปู่และบรรพบุรุษที่สูงกว่านั้นด้วย
ข้อห้ามในอายัตนี้มีเพียงภรรยาของบิดาเท่านั้น แต่บุตรสาวหรือมารดาของภรรยาคนอื่นของสามีคนอื่นนั้น ไม่เป็นข้อห้ามสำหรับบุตรชายของสามีที่เกิดจากภรรยาคนอื่น ดังนั้นจึงเป็นที่ยอมรับได้ที่ชายคนหนึ่งจะแต่งงานกับหญิงคนหนึ่ง และบุตรชายของเขาก็แต่งงานกับบุตรสาวหรือมารดาของหญิงคนนั้นได้
เหตุผลที่การแต่งงานผ่านทางมุซาเฮเรห์เป็นสิ่งต้องห้ามคือ;
เป็นการแสดงความเคารพและให้เกียรติบรรพบุรุษ นอกจากนี้ยังเป็นการป้องกันการทำผิดและทำให้ครอบครัวมีความสุข และโดยทั่วไปแล้ว การที่พ่อและลูกอาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกัน อาจทำให้เกิดความขัดแย้ง และลูกชายอาจมองดูหรือเห็นภรรยาของพ่อ ซึ่งอาจนำไปสู่การทำผิดได้ ดังนั้นจึงเป็นการป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้
(ศาสตราจารย์ ดร. เวห์เบะ ซูฮัยลี, สารานุกรมฟิกฮ์อิสลาม, IX/106)
ด้วยความรักและคำอวยพร…
ศาสนาอิสลามผ่านคำถามและคำตอบ