อย่าหลงเชื่อความจริงใจของคนอื่น!
ผลประโยชน์มาเหนือสิ่งอื่นใด
ถ้าพระเจ้าไม่ทรงสัญญาไว้ว่าจะมีสวรรค์;
แม้ต่อพระองค์ พวกเขาก็ไม่ยอมกราบไหว้” (เมห์เม็ต อากิฟ เออร์โซย)
– คุณช่วยอธิบายคำพูดนี้ให้หน่อยได้ไหมครับ/คะ?
พี่น้องที่รักของเรา
– ของ M Akif,
อย่าหลงเชื่อความจริงใจของคนอื่น!
ผลประโยชน์มาเหนือสิ่งอื่นใด
ถ้าพระเจ้าไม่ทรงสัญญาไว้ว่าจะมีสวรรค์;
แม้แต่ต่อพระองค์ พวกเขาก็ไม่ยอมกราบไหว้”
คำพูดในรูปแบบบทกวีนี้ เป็นการแสดงออกถึงความจริงอย่างหนึ่ง
ดังนั้น แม้จะได้รับสัญญาว่าจะได้ขึ้นสวรรค์ และถูกขู่ว่าจะต้องตกนรก แต่ผู้คนก็ยังไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ของตนอย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนถึงคำกล่าวนี้
– แน่นอนว่ามีกลุ่มคนจำนวนมากที่ปฏิบัติศาสนกิจเพื่อความพึงพอใจของพระเจ้าเท่านั้น แต่ก็ไม่มีข้อสงสัยว่าสิ่งที่กระตุ้นให้คนส่วนใหญ่ปฏิบัติศาสนกิจคือความจริงของสวรรค์และนรก
ดังที่ได้มีการกล่าวไว้ในฮะดีษที่เล่าต่อกันมาว่า พระผู้เป็นศาสดา (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ได้ตรัสว่า;
“อย่าดูที่การละหมาดและการอดอาหารของคนๆ นั้น แต่จงดูว่าเขาสามารถพูดความจริงได้หรือไม่ เมื่อได้รับความไว้วางใจ เขาแสดงให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือได้หรือไม่ และเมื่อโลกหัวเราะเยาะเขา เขาจะยังคงยึดมั่นในความกตัญญูต่อพระเจ้าอยู่หรือไม่”
(ท่าทีของเขาเมื่อมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง)
ลองดูแล้วค่อยตัดสินใจ”
(เคนซุลอุมมัล, เลขที่ 8435)
ในอีกหนึ่งเรื่องเล่า กล่าวไว้โดยประมาณดังนี้:
“อย่าให้การละหมาดและการอดอาหารของเขาหลอกลวงคุณเลย ใครอยากอดอาหารก็อด ใครอยากละหมาดก็ละหมาด แต่ผู้ที่ไม่มีความน่าเชื่อถือก็ไม่มีศาสนา”
(เคนซุล-อุมมัล, หมายเลขประจำตัว: 8436)
ด้วยความรักและคำอวยพร…
ศาสนาอิสลามผ่านคำถามและคำตอบ