– เราจะคิดแบบนี้ได้ไหมว่า บางทีถ้าพวกเขาได้รู้จักก่อนหน้านี้ พวกเขาก็อาจจะไม่เชื่อ งั้นแล้วทำไมเราถึงต้องมาใช้ชีวิตอยู่ในช่วงเวลานี้กันล่ะ ถ้าหากพระเจ้าทรงรู้ว่าเราจะทำอะไร ก็ควรจะส่งเราไปสวรรค์หรือนรกไปเลยไม่ใช่เหรอ?
– ฉันเข้าใจคำตอบของคำถามนี้ว่า “บางทีเราอาจจะคัดค้าน” ถ้าอย่างนั้นปีศาจก็สามารถคัดค้านได้เช่นกันว่า “ทำไมคุณถึงไม่ให้เรามีโอกาสได้ใช้ชีวิตและได้เห็นสิ่งต่างๆ”
– หรือว่าเพราะปีศาจไม่มีค่าพอที่จะได้รับการปฏิบัติแบบนี้?
พี่น้องที่รักของเรา
ปีศาจ
เขาเลือกเส้นทางแห่งการปฏิเสธด้วยความสมัครใจของเขาเอง นั่นหมายความว่า -ห้ามเป็นอย่างเด็ดขาด- เขาไม่ได้เลือกเส้นทางแห่งการปฏิเสธเพราะถูกบังคับหรือถูกกดดันจากพระเจ้า หากเป็นเช่นนั้น จะเป็นการไม่ยุติธรรม
พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงยุติธรรมอย่างแท้จริงนั้น ทรงบริสุทธิ์จากสิ่งเหล่านี้
มี hadith (คำกล่าวของศาสดาอิสลาม) เกี่ยวกับเรื่องนี้ดังนี้:
“ปีศาจของฉันยอมจำนนต่อฉันแล้ว”
(ติรมีซี, ราดา 17; มุสนัด, III/309)
ในฮาดิสนี้กล่าวถึง
“การส่งข้อความ”
คำนี้มีความหมายทั้งว่า “ยอมจำนนและต้องยอมอ่อนน้อม” และ “หันมานับถือศาสนาอิสลาม” ดังนั้น
“หันมานับถือศาสนาอิสลาม”
ถ้าตีความตามความหมายนี้ อาจเข้าใจได้ว่าจะเป็นผู้ที่ได้เข้าสวรรค์ แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านฮะดิษตีความคำนี้ว่า
“ยอมจำนนและยอมแพ้”
พวกเขาถือว่ามีความหมายเช่นนั้น เพราะพวกเขาได้กล่าวไว้ว่า เนื่องจากแก่นแท้ของปีศาจนั้นบกพร่อง จึงเป็นไปไม่ได้ที่มันจะกลายเป็นมุสลิมได้
(ติร์มิซี, ราดา 17; อิบน์ จัอซียะห์, ตัลบิส อิบลิส หน้า 34)
ดังนั้น เนื่องจากแก่นแท้ของปีศาจถูกบั่นทอนไปแล้ว จึงจะไม่เชื่อในศาสนา แม้ว่ามันจะยังมีชีวิตอยู่จนถึงวันสิ้นโลกก็ตาม
แม้แต่ปีศาจก็ต้องถูกทดสอบเช่นกัน
เช่นเดียวกับที่มนุษย์มาสู่โลกนี้เพื่อถูกทดสอบในช่วงเวลาหนึ่ง ปีศาจก็ถูกทดสอบเช่นกัน แต่เช่นเดียวกับที่กลุ่มหนึ่งของมนุษย์เลือกเส้นทางแห่งการปฏิเสธศรัทธา ปีศาจซึ่งเป็นพวกปฏิเสธศรัทธาจากพวกจินก็เลือกเส้นทางแห่งการปฏิเสธศรัทธาด้วยเจตจำนงของตนเอง…
ด้วยความรักและคำอวยพร…
ศาสนาอิสลามผ่านคำถามและคำตอบ