– หญิงสาวห้ามอ่านอัลกุรอานเสียงดังในที่ที่มีผู้ชายอยู่ แต่คุณคิดอย่างไรกับการอ่านอัลกุรอานในสถานที่อย่างเช่นคณะศาสนศาสตร์ ซึ่งเป็นที่ที่ศึกษาความรู้ทางศาสนาทั้งหมด?
– ใครควรรับผิดชอบต่อสถานการณ์นี้? น้องสาวนักศึกษาของเราควรทำอย่างไร?
พี่น้องที่รักของเรา
ตามความเห็นของนักปราชญ์อิสลามส่วนใหญ่ เสียงของผู้หญิงโดยหลักการแล้วไม่ใช่สิ่งต้องห้าม (อะวร์ต) แต่หากเสียงนั้นก่อให้เกิดความวุ่นวาย (ฟิตนะ) ก็จะถูกยอมรับเป็นสิ่งต้องห้ามโดยมติเอกฉันท์
ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นประเภทหรือสื่อใดก็ตาม ผู้หญิงไม่ควรอ่านสิ่งใดที่กระตุ้นความรู้สึกทางโลกีย์หรือโน้มน้าวใจให้ไปในทางนั้น เพราะในข้อพระคัมภีร์กล่าวถึงภรรยาของศาสดา (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม)
“ท่าทางและน้ำเสียงที่พวกเขาจะใช้เมื่อพูดคุยกับผู้อื่น”
คำสั่งในอัลกุรอานที่ขอให้พวกเขาระมัดระวัง
(อัซฮับ, 33/32)
เป็นเรื่องที่ควรเตือนสติผู้หญิงคนอื่นๆ ด้วย หากไม่มีสถานการณ์เช่นนั้น ก็จะไม่มีข้อห้ามใดๆ
นอกจากนี้ยังมีการเตือนสติในการละหมาดจากศาสดาโมฮัมหมัด (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ดังนี้:
(เมื่ออิหม่ามทำผิดพลาดในระหว่างการละหมาด) ทัศฟิก
(จับมือกัน)
สำหรับผู้หญิงเท่านั้น และ
(ออกเสียง)
การกล่าวซุบฮานัลเลาะห์ (ซุบฮานัลลอฮ์) เป็นสิ่งที่สงวนไว้สำหรับผู้ชายเท่านั้น
[บุฮารี, อะซาน, 48; มุสลิม, นมาซ, 23 (106)]
จากคำสั่งสอนดังกล่าว นักปราชญ์ของเราได้สรุปข้อสรุปดังต่อไปนี้:
“การที่สตรีพูดคุยและให้ได้ยินเสียงของตนเองกับบุรุษที่ไม่ใช่ญาติสนิท (ผู้ที่ไม่ใช่ญาติมิตร) ในการสนทนาปกตินั้น ไม่ถือว่าเป็นสิ่งผิดทางศาสนา แต่การที่สตรีปล่อยให้บุรุษที่ไม่ใช่ญาติมิตรได้ยินเสียงที่ไพเราะและมีเสน่ห์ ซึ่งเกิดขึ้นขณะที่สตรีอ่านอัลกุรอานหรือร้องเพลงสวดนั้น ไม่เหมาะสม ด้วยเหตุนี้ การที่สตรีปล่อยให้บุรุษที่ไม่ใช่ญาติมิตรได้ยินเสียงที่ไพเราะและมีน้ำเสียงดนตรีนั้น จึงไม่เหมาะสม”
(เรดดุล มุห์ตาร์, 1/406)
โดยสรุปแล้ว
นักเรียนหญิงสามารถอ่านอัลกุรอานได้ในรูปแบบการพูด โดยไม่มีทำนองหรือเสียงดนตรี เมื่ออยู่ข้างผู้ชายที่พวกเธอจะแต่งงานด้วย
ด้วยความรักและคำอวยพร…
ศาสนาอิสลามผ่านคำถามและคำตอบ