ตามหลักศาสนบัญญัติของนิกายชาฟีอ์ หากสิ่งใดทำให้การละหมาดเป็นโมฆะ เช่น การผายลม การถ่ายอุจจาระหรือปัสสาวะ จะทำให้ต้องเริ่มการอาบน้ำละหมาดใหม่หรือไม่? และผู้ที่มีข้อจำกัดทางการแพทย์ต้องละหมาดทุกครั้งก่อนละหมาด กฎนี้ใช้กับการอาบน้ำละหมาดด้วยหรือไม่?
พี่น้องที่รักของเรา
ดังนั้น การมีน้ำเหลืองออกมาขณะละหมาดญุญับจะไม่ทำให้การละหมาดญุญับเสียไป แต่จะไม่สามารถใช้การละหมาดญุญับนั้นเพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนาได้ ต้องละหมาดญุญับใหม่และทำอับดะฮ์ใหม่
การมีลมหรือสิ่งคัดหลั่งที่ทำให้การละหมาดเป็นโมฆะระหว่างการอาบน้ำมนต์จะไม่ทำให้การอาบน้ำมนต์เป็นโมฆะ
ขอชี้แจงก่อนเลยว่า การไหลของสิ่งเหล่านั้นไม่ทำให้การละหมาดเป็นโมฆะ การละหมาดที่ทำไปแล้วก็ยังถือว่าถูกต้อง แม้ว่าจะมีสิ่งเหล่านั้นไหลออกมาก็ตาม หากไม่สามารถรอให้หยุดได้ ก็ให้ดำเนินการละหมาดต่อ ไม่จำเป็นต้องเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้น
ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นของเหลวที่ไหลออกมาจากทางเดินปัสสาวะ หรือเลือดที่ไหลออกมาจากฟัน ก็ไม่ได้ทำให้การอาบน้ำชำระล้างร่างกาย (กุสล) เป็นโมฆะ แต่จะทำให้การอาบน้ำชำระล้างร่างกาย (กุสล) ไม่สามารถใช้แทนการละหมาด (อะบดะต) ได้ นั่นคือ ผู้ที่ได้รับการชำระล้างความสกปรกทางจิตวิญญาณแล้ว จะต้องละหมาด (อะบดะต) ใหม่เพื่อการละหมาด (อิบาดะต)
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ หรือเพื่อให้การอาบน้ำชำระล้างร่างกายยังคงมีคุณสมบัติของการละหมาด (อับดัส) จึงมีคำแนะนำต่างๆ ดังนี้:
ผู้ที่จะละหมาดอาบน้ำมงคลควรทำความสะอาดร่างกายก่อนอาบน้ำมงคลเสียก่อน นั่นคือ ควรนอนหลับสักพัก หรือเดินสักหน่อย หรือปัสสาวะให้หมดจนไม่มีคราบตกค้าง เพื่อป้องกันการไหลออกมาของสิ่งสกปรกระหว่างอาบน้ำมงคล ซึ่งจะทำให้การอาบน้ำมงคลไม่บริสุทธิ์และไม่สามารถใช้ประกอบพิธีกรรมได้
ในหนังสือฟิกฮ์ที่เกี่ยวข้อง เรื่องนี้ถูกกล่าวไว้ดังนี้:
ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่น ผู้ที่มีมูกหรือหนองไหลออกมาจากร่างกาย ไม่ต้องกังวลว่าสิ่งเหล่านั้นจะทำให้การละหมาดอนัฟิลเลาะห์ (ละหมาดที่ไม่บังคับ) เสียไป
คลิกเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม:
สถานะของผู้พิการตามนิกายชะฟีอีย์คืออย่างไร?
ด้วยความรักและคำอวยพร…
ศาสนาอิสลามผ่านคำถามและคำตอบ