พี่น้องที่รักของเรา
ศาสดาผู้ยิ่งใหญ่ (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ได้ตรัสไว้ดังนี้:
“
จากนั้นศาสดาโมฮัมหมัดก็กล่าวต่อดังนี้:
คำอธิษฐานและคำขออภัยนี้ครอบคลุมทุกประเภทของการกลับใจ ชื่อของมันมาจากการใช้ถ้อยคำที่งดงามและมีความหมายที่ลึกซึ้งและกว้างขวางอย่างยิ่ง เพราะผู้ที่อ่านคำอธิษฐานขออภัยนี้ (Sayyid al-Istighfar) ได้แสดงออกอย่างจริงใจว่าพระเจ้าผู้เดียวของเขาคืออัลลอฮฺ และว่าเขาอธิษฐานและนมัสการเฉพาะพระองค์เท่านั้น เขาได้กล่าวว่าอัลลอฮฺคือพระผู้สร้างเพียงผู้เดียวและไม่มีคู่แข่ง เขาได้ยอมรับพันธสัญญาที่พระองค์ทรงทำไว้กับเขาตั้งแต่ก่อนเกิดและแสดงความจริงใจว่าเขายึดมั่นในคำสัญญาที่เขาให้ไว้กับพระเจ้า เขาได้กล่าวถึงพระคุณต่างๆ ที่พระเจ้าได้ประทานให้เขาด้วยความกตัญญู เขาได้สารภาพบาปที่เขาได้กระทำด้วยความละอาย เขาได้แสดงให้เห็นว่าเขารู้ว่าควรจะขอความช่วยเหลือจากใครในเรื่องบาปเหล่านี้ เขาได้แสดงความปรารถนาที่จะได้รับการปล่อยจากบาปเหล่านั้น และเขาได้ขออภัยด้วยความตระหนักว่าไม่มีใครสามารถให้อภัยได้นอกจากอัลลอฮฺเท่านั้น
ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ในคำอธิษฐานขออภัยบาปที่สำคัญที่สุด (سيد الاستغفار) ได้กล่าวถึงความยิ่งใหญ่ที่ไม่มีใครเทียบได้ของพระผู้ทรงอำนาจเพียงผู้เดียว และในทางตรงกันข้าม ความอ่อนแอและความไร้กำลังใจของมนุษย์ผู้ต้องการพระเมตตาและการอภัยบาปของพระองค์ ได้ถูกแสดงออกด้วยถ้อยคำที่เรียบง่ายและจริงใจอย่างยิ่ง
ในประโยคนี้ ผู้รับใช้ได้สารภาพความไร้เดียงสาของตนอย่างอ่อนโยน ด้วยถ้อยคำเหล่านี้ เขาบอกว่า “พระเจ้าของข้าพเจ้า! ในเบซม-อิ-เอเลสต์ พระองค์ทรงถามเรา และเราก็ตอบไปเช่นนั้น การรับรู้และการยอมรับการเป็นผู้รับใช้ของข้าพเจ้านี้ ข้าพเจ้าควรทำอย่างดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะพระองค์ทรงคู่ควรกับมัน แต่ข้าพเจ้าเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่สมบูรณ์ ข้าพเจ้าไร้เดียงสาที่จะแสดงการเป็นผู้รับใช้ที่พระองค์ทรงคู่ควรอย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้าพยายามทำอย่างสุดความสามารถ”
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ได้แต่ร้องขอด้วยคำว่า “ขอเป็นทาส”
จากนั้น ผู้ทำบาปจะระลึกถึงพระคุณของพระเจ้าด้วยความกตัญญู และสารภาพบาปของตน โดยแสดงความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะได้รับการปล่อยจากบาปเหล่านั้น แต่ก็บอกว่าตนไม่มีพลังที่จะทำเช่นนั้นได้ และจึงอ้อนวอนขอร้อง
แท้จริงแล้วคำขออภัยนี้มีความงดงามและสมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง เพราะมันสะท้อนให้เห็นถึงการวิงวอนของมนุษย์ต่อพระผู้เป็นเจ้าอย่างจริงใจ และนับเป็นหนึ่งในของขวัญอันงดงามที่สุดจากท่านศาสดา (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ในคำพูดที่ทรงพลังของคำขออภัยอันประเสริฐที่สุดนี้ เราสามารถสัมผัสได้ถึงร่องรอยแห่งพระวจนะของพระเจ้า
ข่าวดีที่ปรากฏในตอนท้ายของฮาดิส เปรียบเสมือนสายลมยามรุ่งอรุณที่พัดมาปลุกใจให้สดชื่นและมีชีวิตชีวาแก่จิตใจที่อ่อนล้าจากบาปกรรม
ตามที่นายกามิล มิรัส ผู้แปลหนังสือ Tecrîd-i Sarîh (ผู้ล่วงลับ) กล่าวไว้ ในอดีตมัสยิดใหญ่ ๆ ในแอนาโทเลียจะมีการสวดคำอธิษฐานร่วมกันระหว่างอิหม่ามและมุสลิมในวันพฤหัสบดีหลังจากการละหมาดอะซัร (บ่าย)
ดังนั้น:
เป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ที่มุสลิมทุกคนควรใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ ควรเชื่อมั่นอย่างสุดหัวใจในพรและคุณธรรมอันศักดิ์สิทธิ์ที่มันจะมอบให้แก่ผู้คน และควรท่องจำด้วยความเคารพอย่างสูงส่งและความจริงใจ
– คำอธิษฐานนี้แสดงให้เห็นถึงพระเดชานุภาพอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ความอ่อนแอและความไร้กำลังใจของมนุษย์ และความต้องการพระเมตตาและการอภัยโทษจากพระเจ้าอย่างงดงาม สร้างความใกล้ชิดที่สมบูรณ์แบบระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า
– ผู้ที่อ่านด้วยความเชื่อในคุณค่าและคุณธรรมของมัน จะได้รับสวรรค์เป็นรางวัล
คลิกเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม:
ด้วยความรักและคำอวยพร…
ศาสนาอิสลามผ่านคำถามและคำตอบ
