– ขอให้คุณช่วยอธิบายประโยคนี้ให้ละเอียดเพิ่มเติมอีกหน่อยได้ไหมครับ
– ฉันเคยเห็นในอายะต์หนึ่งที่ว่า “การกลับใจไม่เป็นที่ยอมรับเมื่ออยู่ในอ้อมกอดแห่งความตาย” คำว่า “อยู่ในอ้อมกอดแห่งความตาย” นี้หมายความว่าอย่างไรกัน เช่น ถ้าคนๆหนึ่งกำลังจะตาย คือในลมหายใจสุดท้ายหรืออาจจะก่อนหน้านั้นไม่กี่วินาที แล้วกลับใจ การกลับใจของเขาจะไม่เป็นที่ยอมรับใช่หรือไม่ ฉันเข้าใจแบบนี้
– แล้วการกลับใจของคนคนนี้เข้ากับข้อพระคัมภีร์นี้ได้ไหมครับ สมมุติว่ามีคนๆหนึ่งรู้ว่าตัวเองเป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาได้ และหมอบอกว่าเขาจะตายภายใน 5 หรือ 10 ปี แล้วคนๆนี้ก็กลับใจต่อพระเจ้าเพราะบาปที่เคยทำมา การกลับใจของคนๆนี้จะได้รับการยอมรับไหมครับ
พี่น้องที่รักของเรา
ข้อความจากพระคัมภีร์ที่เกี่ยวข้องมีดังนี้:
“หรือผู้ที่กระทำความชั่วร้ายแล้ว เมื่อความตายมาถึงจึงกล่าวว่า ‘บัดนี้ข้าพเจ้าได้กลับใจแล้ว’ และผู้ที่ตายในสภาพเป็นผู้ไม่ศรัทธาต่ออัลลอฮ์นั้น จะไม่มีการรับคำขออภัยบาปจากพวกเขาเลย เราได้เตรียมโทษทรมานอันแสนสาหัสไว้สำหรับพวกเขา”
(อัส-นิสาอ์, 4/18)
ประตูแห่งการกลับใจยังเปิดอยู่ตราบเท่าที่มนุษย์ยังคงมีชีวิตอยู่
เมื่อใดที่พวกเขาตระหนักถึงความผิดพลาดและกลับใจมาสู่ความดี ก็หวังว่าพระเจ้าจะทรงยอมรับการกลับใจนั้นตามคำสัญญา และทรงอภัยให้แก่ผู้ทำบาปตามพระเมตตาของพระองค์
หากผู้กระทำบาปไม่สำนึกผิดจนกระทั่งถึงวินาทีสุดท้ายของชีวิต เมื่อหมดหวังในชีวิตโลก และได้เห็น ได้สัมผัสกับความจริงบางอย่างเกี่ยวกับโลกเบื้องหน้าและเบื้องหลังชีวิตนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่ในโลกแห่งความลับ แล้วจึงสำนึกผิดก่อนที่จะเสียชีวิต สาเหตุของการสำนึกผิดครั้งนี้ก็คือ
เป็นการแสดงความเสียใจอย่างจริงใจที่เกิดจากความเชื่อในสิ่งเหนือธรรมชาติ ไม่ใช่เพื่อหลีกเลี่ยงโทษที่ต้องเผชิญ
จะไม่ได้รับการยอมรับ เนื่องจากไม่มีโอกาสให้ทดสอบการเป็นผู้รับใช้และการเชื่อฟังอีกต่อไปแล้ว
การกลับใจที่ไม่อาจได้รับการยอมรับอีกอย่างหนึ่งคือ การกลับใจของคนที่ใช้ชีวิตปฏิเสธศาสนาที่แท้จริง แล้วเสียชีวิตไปสู่โลกหน้าและเกิดความเสียใจภายหลัง
การกระทำเช่นนี้จะไม่เป็นที่ยอมรับจากพระเจ้า เนื่องจากไม่ได้เกิดจากศรัทธาในสิ่งที่ไม่อาจมองเห็นได้ และความเสียใจอย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังมีข้อพระคัมภีร์อื่นๆ ที่ยืนยันคำตัดสินนี้ด้วย
(ดู อัลบะกะเราะ 2:162; อัลอิลม์อิล-อิหม์รอน 3:91)
นอกจากนี้ ยังมีรายงานจากท่านศาสดา (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ว่า
การกลับใจที่เกิดขึ้นหลังจากเริ่มมีอาการทรมานก่อนตายจะไม่ถูกยอมรับ
มี hadith (คำกล่าวของศาสดาอิสลาม) ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเรื่องนี้
(มุสนัฎ, II, 132, 153; อิบน์มาจิ, ซุห์ด, 30; ติรมีซี, ดะอาวัต, 98)
ทั้งความศรัทธาและคำขออภัยบาปสามารถเกิดขึ้นได้ด้วยการมีส่วนร่วมของจิตใจและหัวใจ ดังนั้นจึงต้องอาศัยเจตจำนงด้วย เมื่อการตายหรือวันสิ้นโลกใกล้เข้ามา เงื่อนไขของศรัทธาต่อสิ่งที่ไม่อาจมองเห็นได้และเจตจำนงก็จะหายไป ทำให้การกระทำบาปอย่างต่อเนื่องเป็นไปไม่ได้
เป็นไปไม่ได้ที่คนในสถานการณ์เช่นนี้จะแสดงพฤติกรรมใดๆ ที่มีคุณค่าทางศาสนา
(มาตุรีดี, เทวิลาตุล-กุรอาน, IV, 93-98)
ดังนั้น ไม่ว่าคนๆ นั้นจะป่วยหนักแค่ไหน หรือแม้แต่แพทย์จะบอกวันตาย หรือใกล้จะตายแค่ไหน หรือแม้แต่จะเสียชีวิตในอีกไม่กี่วินาที ก็ยังสามารถทำทัพซอลาฮัต (การกลับใจ) ได้ ตราบใดที่ยังไม่ได้เห็นความจริงอันศักดิ์สิทธิ์เกี่ยวกับโลกหน้า
เนื่องจากเราไม่สามารถรู้ได้ว่าบุคคลนั้นอยู่ในภาวะใกล้ตายหรือไม่ เราจึงควรคิดในแง่ดีเกี่ยวกับการกลับใจทุกครั้ง และคิดว่าการกลับใจนั้นได้รับการยอมรับและมีผลบังคับใช้
ด้วยความรักและคำอวยพร…
ศาสนาอิสลามผ่านคำถามและคำตอบ