พี่น้องที่รักของเรา
“อย่าไปยุ่งกับสิ่งที่คุณไม่รู้ เพราะหู ตา และหัวใจของคุณจะต้องรับผิดชอบต่อสิ่งนั้น”
(อิลซอรา, 17/36)
ข้อความนี้ห้ามมิให้บุคคลกล่าวหรือตัดสินในเรื่องที่ตนไม่รู้ ห้ามมิให้ประพฤติอย่างไม่รู้ความจริง ห้ามมิให้พูดจาหรือกล่าวถึงบุคคลที่ตนไม่รู้จักโดยปราศจากความรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้การเป็นเท็จ การกล่าวหาผู้อื่นอย่างไม่เป็นความจริง กล่าวโดยสรุปคือ ห้ามมิให้พูดหรือกระทำในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายทางวัตถุหรือจิตใจแก่ผู้อื่นโดยปราศจากความรู้และเป็นการคาดเดา
มนุษย์กระทำการด้วยสิ่งที่ได้ยินหรือเห็น หรือด้วยเหตุผลและจิตสำนึกของตน กล่าวคือ ความรู้ของเรานั้นมาจากข่าวสาร การสังเกต หรือเหตุผล บทบัญญัติในอายะห์นี้กล่าวถึงการใช้แหล่งข้อมูลเหล่านี้อย่างถูกต้อง และความรับผิดชอบต่อสิ่งเหล่านี้ แน่นอนว่าข้อห้ามนี้เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ และการคาดการณ์ การแสดงความคิดเห็น และการออกอิสติฮาดอย่างถูกต้องตามกฎเกณฑ์ในเรื่องทางวิทยาศาสตร์และทางความคิดนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องและจำเป็นอย่างยิ่ง
(อรรถธิบายศาสนธรรมของกรมศาสนา, เส้นทางสู่คัมภีร์กุรอาน: III, 420)
อย่าไปยุ่งกับสิ่งที่คุณไม่รู้
ถ้าเราย้ายคำสั่งนี้ไปอยู่ในขอบเขตทางกฎหมาย
บุคคลที่ให้การเป็นพยานไม่ควรให้การเป็นพยานในเรื่องที่ตนไม่ได้ยิน ไม่ได้เห็น ไม่ได้รู้ และหัวใจของตนไม่รู้สึกพึงพอใจ
เราสามารถกล่าวได้ว่ามีการสั่งการเช่นนั้น คำสั่งนี้จึงช่วยป้องกันการหลอกลวงกฎหมาย
ในเรื่องนี้ มีข้อความในอายะกะรีมบทอื่นที่กล่าวไว้ดังนี้:
“โอ้ผู้ศรัทธาเถิด จงหลีกเลี่ยงการสงสัยส่วนใหญ่ เพราะการสงสัยบางอย่างเป็นบาป จงอย่าค้นหาข้อบกพร่องของกันและกัน และอย่ากล่าวถึงข้อบกพร่องของกันและกันเลย จะมีใครในพวกท่านที่ชอบกินเนื้อของพี่น้องที่ตายแล้วหรือ? พวกท่านจะรู้สึกขยะแขนงกับมัน จงยำเกรงต่ออัลลอฮฺ แท้จริงอัลลอฮฺทรงรับการกลับใจเสมอ และทรงเมตตาอย่างยิ่ง”
(อัลฮุจูรัต 49/12)
และใน hadis (คำกล่าวของศาสดาอิสลาม) ก็กล่าวไว้ว่า
ดังนี้
ขอเชิญ:
“การกล่าวหาว่าเห็นสิ่งที่ตนไม่ได้เห็นด้วยตาของตนเอง คือการกล่าวหาที่ร้ายแรงที่สุดอย่างหนึ่ง”
(บุฮารี, ค. อัต-ตับเบอร์, บทที่ 45)
ด้วยความรักและคำอวยพร…
ศาสนาอิสลามผ่านคำถามและคำตอบ