พี่น้องที่รักของเรา
ศาสนาอิสลามได้กำหนดหลักเกณฑ์บางประการเกี่ยวกับการปกปิดร่างกาย หลักเกณฑ์เหล่านี้คำนึงถึงความแตกต่างในการสร้างสรรค์ (ทางกายภาพและจิตใจ) ระหว่างผู้หญิงและผู้ชาย โดยมีข้อความในอายะที่ 59 ของซูเราะห์อัล-อัซฮับ และคำสั่งสอนของศาสดาโมฮัมหมัด (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม)
“…จงบอกผู้หญิงของพวกท่าน ลูกสาวของพวกท่าน และผู้หญิงที่เป็นมุสลิมให้สวมผ้าคลุมศีรษะเมื่อออกไปจากบ้าน”
มีการ “สั่งการ” ในลักษณะเช่นนี้
คำสั่งให้สวมฮิญาบในข้อพระคัมภีร์ไม่ได้จำกัดเฉพาะภรรยาและธิดาของศาสดาโมฮัมหมัด (ศจล.) เท่านั้น แต่ครอบคลุมถึงผู้หญิงมุสลิมทุกคน ดังนั้นข้อพระคัมภีร์นี้จึงไม่ใช่ข้อเฉพาะเจาะจง แต่เป็นข้อทั่วไปและเป็นกฎเกณฑ์ หลังจากคำสั่งในข้อพระคัมภีร์แล้ว ก็ได้กล่าวถึงเหตุผลต่างๆ
“ทำไมต้องคลุมผ้า”
คำตอบของคำถามนี้ก็มีอยู่ในข้อความนั้น ข้อความต่อจากนั้นกล่าวว่า การสวมผ้าคลุมเป็นสิ่งที่ดีกว่าสำหรับผู้หญิงเพื่อให้พวกเธอเป็นอิสระและมีศีลธรรม ดังนั้น การสวมผ้าคลุมจึงมีหน้าที่ในการรักษาอิสรภาพและศีลธรรมของผู้หญิงอย่างแน่นอน การที่คำสั่งให้สวมผ้าคลุมถูกใช้เป็นเครื่องมือเพื่อให้ได้มาซึ่งอิสรภาพและศีลธรรมนั้นยืนยันถึงสิ่งนี้
ไม่ได้มีการห้ามผู้หญิงเข้าร่วมในชีวิตสังคมแต่อย่างใด แต่เพื่อให้ผู้หญิงรักษาสมณภาพของตนเอง มีอิสระ และได้รับการปกป้องจากการถูกรังแกจากผู้อื่น
“การแต่งกายตามหลักศาสนาอิสลาม” หรือ “การแต่งกายอย่างเรียบร้อยตามหลักศาสนาอิสลาม”
ได้ถูกบัญญัติไว้แล้ว ควรระบุว่าคุณธรรมเหล่านี้ที่เตือนสติผู้หญิงให้มีศีลธรรม เป็นแก่นแท้ของศาสนบัญญัติเรื่องการปกปิดร่างกาย
ดังนั้น การสวมฮิญาบจึง…
ไม่ได้บ่งบอกถึงเพียงแค่เครื่องแต่งกายแบบอิสลามเท่านั้น แต่ยังบ่งบอกถึงความเข้าใจด้านศีลธรรมแบบอิสลามด้วย โดยระบุว่าผู้หญิงที่จะเข้าร่วมชีวิตสังคมควรจะรักษาความบริสุทธิ์ไว้ก่อนเป็นอันดับแรก และการสวมผ้าคลุมถือเป็นสิ่งที่เหมาะสมและมีคุณธรรมมากกว่าในการพัฒนาคุณลักษณะทางศีลธรรมนี้
ขณะที่คลุมศีรษะ
ควรหลีกเลี่ยงการแต่งกายและเครื่องประดับที่ดึงดูดความสนใจ เนื่องจากสิ่งเหล่านี้ไม่สอดคล้องกับจิตวิญญาณของอิสลามที่เน้นการปกปิดร่างกาย
ผู้หญิงควรแต่งกายเรียบง่ายและไม่ฉูดฉาดเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ที่ไม่ใช่ญาติสนิท
เพื่อให้การปกปิดร่างกายเป็นไปตามหลักการที่แท้จริง
ด้วยความรักและคำอวยพร…
ศาสนาอิสลามผ่านคำถามและคำตอบ