พี่น้องที่รักของเรา
“ความเป็นพระเจ้า”
คำพูดนี้เป็นกับดักที่ถูกวางอย่างชาญฉลาด เป็นคำที่ทำให้เกิดรอยด่างทรามต่อศรัทธาและความเชื่อ เป็นคำที่ทำให้หัวใจมนุษย์เจ็บปวด และทำให้จิตสำนึกรู้สึกเจ็บปวดในบางส่วน
บ่อยครั้งที่คำพูดเหล่านี้และคำพูดที่คล้ายคลึงกันถูกใช้แบบสุ่มสี่สี่ห้า ไม่มีการคิดเลยว่าคำพูดเหล่านั้นจะนำไปสู่สิ่งใด และไม่มีการคำนวณหรือคำนึงถึงผลที่ตามมาเลย เพียงแค่พูดออกมาโดยไม่คิดอะไรเลย
แต่คำพูดเหล่านี้เป็นคำพูดที่ไม่เหมาะสม
เป็นคำพูดที่ไร้สาระและหยาบคายในทุกแง่มุม
– “การทำตัวเหมือนพระเจ้า”
แปลว่าอะไร?
– มันหมายความว่าอย่างไร?
– ร้องเพลงนี้ให้ใครฟัง?
– ใช้เพื่อจุดประสงค์อะไร ใช้ด้วยความคิดอะไร?
พจนานุกรม TDK
“ความเป็นพระเจ้า”
ให้คำอธิบายเกี่ยวกับคำว่าดังนี้:
“คนไร้เดียงสาและไม่เป็นอันตราย ซึ่งไม่คาดหวังประโยชน์อะไรจากเขาเลย”
และเขายังยกตัวอย่างประโยคมาให้ด้วย:
“ไอ้คนนี้มันเป็นคนไร้ความสามารถ ไม่สามารถทำอะไรได้เลย”
ในภาษาพูดทั่วไปก็มีการใช้คำเหล่านี้สลับกันไปมาดังนี้:
“งานของคุณคืองานของพระเจ้า”, “คนของพระเจ้า”, “เหมือนกับนายอลิเบย์ที่ทำเพื่อพระเจ้า”, “เป็นสถานการณ์ที่น่าเศร้าอย่างแท้จริง อนาคตหมดไปแล้ว เหลือไว้แต่ความทุกข์”
หากสังเกตให้ดี คำเหล่านี้ใช้เพื่ออธิบายถึงคนที่ไม่รู้เรื่อง ไม่มีความสามารถ มีปัญหา และไม่มีประโยชน์อะไรเลย
ดังนั้น จึงมีการกล่าวอ้างว่าพระเจ้าทรงมีข้อบกพร่องหรือความไม่สมบูรณ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องห้ามอย่างยิ่ง
ดูเหมือนว่าความหมายที่ได้จากตรงนี้คือ ถ้าคนเราเข้าใกล้พระเจ้า พยายามเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า ปฏิบัติตามคำสั่งและข้อห้ามของพระเจ้า คนๆนั้นจะกลายเป็นคนโง่เขลาและน่าเวทนา
หรือถ้าหากงานไม่เป็นไปตามแผน หรือไม่สามารถบรรลุผลลัพธ์ตามที่วางแผนและคาดหวังไว้ได้
ความผิดถูกโยนให้เป็นความผิดของพระเจ้า
ความผิดพลาดถูกโยงให้เป็นความผิดของพระเจ้า ดังนั้น
มนุษย์อาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากำลังต่อต้านพระเจ้า
ความไร้ความสามารถนั้นเกิดจากตัวคนเราเอง ความยุ่งเหยิงก็เกิดจากการละเลยและความขี้เกียจของตัวเราเอง ทำไมต้องโทษพระเจ้า ทำไมต้องตำหนิพระเจ้าในเรื่องเหล่านี้?
อัลกุรอานกล่าวไว้ดังนี้:
“สิ่งร้ายๆ ที่เกิดขึ้นกับท่านนั้น เกิดจากสิ่งที่ท่านกระทำด้วยมือของท่านเอง…”
(อัชชูรอ, 42/30)
ดังนั้น ความไร้ความสามารถของมนุษย์นั้นมาจากตัวเขาเอง เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะตำหนิหรือโยนความผิดให้ใคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำไปโยงกับพระเจ้า หรือการกล่าวโทษพระเจ้านั้นเป็นสิ่งที่เขาไม่มีสิทธิ์และไม่มีอำนาจจะทำอย่างเด็ดขาด
หากคำพูดนี้ถูกใช้โดยไม่รู้ตัว ควรกลับใจและสำนึกผิด และไม่ควรปล่อยให้ปากและลิ้นสกปรกด้วยคำพูดเช่นนี้อีก
ในระหว่างนี้
“ความเป็นพระเจ้า”
ด้วย
“คนของพระเจ้า”
ไม่ควรสับสนคำพูดเข้าด้วยกัน เพราะว่า
“คนของพระเจ้า”
แปลว่า,
“ผู้รับใช้ที่ใกล้ชิดกับพระเจ้า”
มีความหมายว่า ผู้เป็นที่รักของพระเจ้า ใช้กับผู้บริสุทธิ์ ผู้เป็นที่รักของพระเจ้า หมายถึงผู้ที่ปฏิบัติตามคำสั่งของพระเจ้า ผู้ที่ไม่เคยละทิ้งความรักและการระลึกถึงพระเจ้าจากหัวใจ และผู้ที่อยู่ห่างไกลจากความประมาทเลินเล่อ
ในภาษาของลัทธิซูฟี
“ผู้ชายของพระเจ้า”, “ผู้ที่รักพระเจ้า”
มีคำศัพท์เหล่านี้อยู่
“ผู้ชาย” “พวกผู้ชาย”
เป็นคำที่มีความหมายว่า, คำตอบคือ
“คนของพระเจ้า”
หมายถึง ผู้ที่รู้จักกันดีในเรื่องความใกล้ชิดกับพระเจ้า ผู้ที่บรรลุถึงระดับหนึ่งในเรื่องการรับใช้ และผู้ที่บรรลุถึงระดับสูงในเรื่องศรัทธา
“คนของพระเจ้า”
คำว่า “คำสั่งสอน” ปรากฏในอัลกุรอาน
“รับบันนีอูน, รับบันนีอีน, ริบีอียูน”
จะถูกกล่าวถึงในลักษณะนี้
“จงเป็นผู้ที่รักและศรัทธาต่อพระเจ้าอย่างแท้จริง”
(อิลีอิมรอน 3:79)
“มีผู้รักพระเจ้ามากมาย”
(อิลีอิมรอน 3/146)
ยิ่งกว่านั้นยังเป็นผู้ปฏิรูปศาสนาอิสลามครั้งใหญ่ ผู้ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ มุจัชชิดิ อัลฟิ ซานี (Müceddid-i Elf-i Sânî) ซึ่งเป็นผู้ปฏิรูปศาสนาอิสลามในศตวรรษที่สองของฮิจเราะห์
อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับดุลอะซิม อับ
“อิหม่าม-อิล-รับยานี”
เป็นที่รู้จักและเรียกกันว่า
“อิหม่ามผู้เป็นคนของพระเจ้า”
แปลว่า
ประเด็นสำคัญทั้งหมด
คือการเป็นคนของพระเจ้าที่ปฏิบัติตามหลักคำสอนของอัลกุรอานและซุนนะห์ในทุกสถานการณ์
นี่คือ
“การรับใช้ในฐานะผู้รับบุญคุณ”
เรียกว่า
ด้วยความรักและคำอวยพร…
ศาสนาอิสลามผ่านคำถามและคำตอบ