พี่น้องที่รักของเรา
ตามความเห็นของอิหม่ามอะซั่ม อับูฮานีฟะห์ ผู้ที่ละหมาดจะต้องออกจากท่าละหมาดด้วยการกระทำที่เกิดจากความสมัครใจและเจตนาของตนเองในตอนท้ายของการละหมาด ส่วนอับูยูซุฟและมุฮัมมัดเห็นว่าการนั่งพักในตอนท้ายของการละหมาด (ตะชะฮูฏ) ถือว่าการละหมาดเสร็จสมบูรณ์แล้วในแง่ของหลักสำคัญ แม้ว่าจะไม่ได้กล่าวคำทักทาย (สลาม) หรือไม่ได้กระทำการที่ขัดต่อการละหมาดด้วยความสมัครใจก็ตาม แต่การละหมาดก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว อย่างไรก็ตาม การละเลยสิ่งที่ควรทำ (วาญิบ) ก็เกิดขึ้นแล้ว
ความแตกต่างของความเห็นนี้มีผลทางฟิกฮ์อยู่บ้าง ดังนั้น หากบุคคลใดนั่งพักตามเวลาที่กำหนดไว้ในตอนท้ายของการละหมาด (ตะชะฮูฏ) แล้วกระทำการที่ไม่สอดคล้องกับการละหมาดด้วยเจตนาของตนเอง เช่น ตอบคำทักทาย รับคำอวยพร หรือพูดคุยกับผู้ที่จาม หรือลุกขึ้นไปจากที่นั่ง ตามความเห็นของทั้งสามอิหม่าม การละหมาดนั้นถือว่าเสร็จสมบูรณ์แล้ว
แต่หลังจากที่นั่งพักตามจำนวนที่กำหนดไว้ในตอนท้ายของการละหมาดแล้ว ตามความเห็นของอับูยูซุฟและมุฮัมมัด การละหมาดของคนผู้นั้นก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่ตามความเห็นของอับูฮานีฟะห์ การละหมาดนั้นยังไม่เสร็จสมบูรณ์
หากในระหว่างการนั่งพักครั้งสุดท้าย หลังจากนั่งพักตามจำนวนที่กำหนดไว้ในตอนท้ายของการละหมาด (ตะชะฮูฏ) แล้ว เวลาละหมาดหมดไปก่อนที่บุคคลนั้นจะออกจากท่าละหมาดด้วยความสมัครใจและเจตนาของตนเอง ตามความเห็นของอับู ยูซุฟและมุฮัมมัด การละหมาดของบุคคลนั้นถือว่าสมบูรณ์แล้ว แต่ตามความเห็นของอับู ฮานีฟะห์ การละหมาดนั้นถือว่าบกพร่อง (ฟาสิด)
การกล่าวคำทักทายครั้งแรกเพื่อออกจากละหมาดนั้นเป็นฟัรฎุ (ข้อบังคับ) และการกล่าวคำทักทายทั้งสองด้านก็เป็นฟัรฎุเช่นกัน
แม้จะมีเกณฑ์การเลือกบางประการที่อิงจากผู้ถือความเห็นใดๆ แต่ในกรณีที่มีข้อพิพาทระหว่างอิหม่ามต่างๆ เพื่อความระมัดระวัง ความเห็นของ ‘ จะได้รับการพิจารณาเป็นหลัก ในกรณีที่มีข้อพิพาท เนื่องจากประสบการณ์ในตำแหน่งกาดิ ความเห็นของ ‘ จะถูกนำมาพิจารณา ส่วนในกรณีของ ‘ เนื่องจากความรู้และความมีอิทธิพลอย่างลึกซึ้งของเขา การตีความของเขาจึงได้รับการพิจารณาเป็นหลัก
ด้วยความรักและคำอวยพร…
ศาสนาอิสลามผ่านคำถามและคำตอบ