
– เว็บไซต์หนึ่งระบุว่า การกำหนดเวลาเมื่อให้ยืมเงินนั้นถือเป็นการคิดดอกเบี้ยและเป็นบาปอย่างร้ายแรง
– ดังนั้น การกำหนดวันเวลาเมื่อให้หรือรับเงินกู้เป็นบาปหรือไม่?
– โดยทั่วไปแล้ว เมื่อคนเราให้หรือรับเงินกู้ พวกเขามักจะกำหนดวันชำระหนี้ไว้ แม้แต่ในธนาคารอิสลาม เมื่อเราถอนเงินกู้แบบปลอดดอกเบี้ย เราก็ยังมีวันชำระหนี้อยู่ การกระทำเหล่านี้เป็นบาปหรือไม่?
พี่น้องที่รักของเรา
ข้อมูลในคำถามนั้นผิดอย่างสิ้นเชิง ขัดต่อข้อความในอัลกุรอานและฮะดิษ
“ถ้า”
(ผู้เป็นหนี้)
ถ้าเขากำลังลำบาก ให้ช่วยเหลือเขาจนกว่าเขาจะสามารถช่วยเหลือตัวเองได้
(อีกสักพัก)
ให้เวลาชำระหนี้แก่เขาเถิด หากท่านรู้ว่าการยกหนี้ให้เป็นทานนั้น จะเป็นสิ่งที่ดีกว่าสำหรับท่าน”
(อัลบะกอระ, 2/280)
ในข้อพระคัมภีร์ที่แปลความหมายว่า
“ควรแนะนำให้ให้เวลาผ่อนผันแก่ลูกหนี้เป็นระยะเวลาหนึ่ง หากลูกหนี้ประสบปัญหาทางการเงิน”
บ่งชี้ว่าสัญญาหนี้สินนั้นมีกำหนดระยะเวลาที่แน่นอน
“การที่คนรวยผ่อนผันการชำระหนี้”
(ไม่ชำระเงินตรงเวลา)
คือการกดขี่ข่มเหง”
(บุฮารี, เรื่องการแลกเปลี่ยนเงิน 1-2)
จากคำสอนของศาสดาที่แปลว่าเช่นนี้ เราสามารถเข้าใจได้ว่าสัญญาหนี้สินจะเกิดขึ้นเมื่อถึงเวลาที่กำหนดไว้
ข้อถกเถียงเรื่องการกำหนดระยะเวลาในสัญญาการกู้ยืม (กัรฎ์) ว่าเป็นสิ่งที่ยอมรับได้หรือไม่นั้น มีผลกระทบทางปฏิบัติอยู่ด้วย เนื่องจากกัรฎ์ถือเป็นสัญญาที่ไม่ผูกพันทั้งสองฝ่าย การกำหนดระยะเวลาในการชำระหนี้จึงไม่ผูกมัดทั้งสองฝ่าย การปฏิบัติตามระยะเวลาที่กำหนดถือเป็นเพียงหน้าที่และความดีงามทางศีลธรรมของผู้ให้กู้เท่านั้น ทางกฎหมายแล้ว ผู้ให้กู้สามารถเรียกร้องหนี้ได้โดยไม่ต้องรอให้ครบกำหนด ในทำนองเดียวกัน ผู้กู้สามารถชำระหนี้ก่อนกำหนดได้เช่นกัน นิกายฮะนะฟี ฮะนะบิลิ ชาฟิอี่ และชีอะห์มีความเห็นในแนวทางเดียวกัน ส่วนนิกายมาลิกี นักฟิกฮ์ฮะนะบิลิบางกลุ่ม และอิบนุฮัซม์ เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ตกลงกันในสัญญา จึงเสนอว่าเงื่อนไขระยะเวลาในกัรฎ์นั้นใช้ได้ (อิบนุฮัซม์, VIII, 469, 474-475; อิบนุคุดามะ, IV, 237; กะราฟี, อัซ-ซะฮิร่า, V, 295-296; สารานุกรมอิสลามแห่งกรมศาสนธรรม, กัรฎ์)
คลิกเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม:
– การกำหนดระยะเวลาในการชำระหนี้เมื่อให้กู้ ถือเป็นการคิดดอกเบี้ยหรือไม่?
ด้วยความรักและคำอวยพร…
ศาสนาอิสลามผ่านคำถามและคำตอบ